
วัสดุก่อสร้างคือหัวใจสำคัญของบ้านและอาคาร เพราะถึงแบบก่อสร้างจะดีแค่ไหน ถ้าวัสดุที่ใช้ไม่ได้คุณภาพ บ้านก็อาจไม่แข็งแรงพอจะรองรับการใช้งานในระยะยาว ที่น่ากลัวคือเจ้าของบ้านหรือเจ้าของโครงการหลายคน ไม่รู้ตัวว่าได้รับวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน จนกว่าปัญหาจะเกิดขึ้นแล้ว มาดูกันว่า วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานอาจนำมาซึ่งอันตรายอะไรบ้าง
1. โครงสร้างไม่แข็งแรง เสี่ยงพังถล่ม
- เหล็กเสริมที่มีขนาดเล็กกว่าที่กำหนด หรือมีสนิมกัดกร่อน
- ปูนคุณภาพต่ำที่ไม่ทนแรงอัด
- อิฐหรือบล็อกที่เปราะ แตกง่าย
สิ่งเหล่านี้ทำให้ เสา คาน และผนัง รับน้ำหนักได้ไม่เต็มที่ เสี่ยงต่อการแตกร้าวหรือถล่ม โดยเฉพาะเวลามีแผ่นดินไหว หรือน้ำท่วมขัง
2. บ้านทรุดเร็ว ใช้งานได้ไม่นาน
หากใช้วัสดุที่ไม่ทนทาน เช่น ปูนที่ผสมผิดสัดส่วน ดินถมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม้ที่ไม่ผ่านการอบแห้ง บ้านอาจเกิดการทรุดตัวเร็วกว่าปกติ และต้องเสียค่าใช้จ่ายซ่อมแซมจำนวนมากในอนาคต
3. ปัญหาน้ำรั่ว–ชื้นสะสม
วัสดุกันซึมราคาถูก หรือกระเบื้องมุงหลังคาคุณภาพต่ำ มักเกิดการแตกร้าวหรือรั่วซึมง่าย เมื่อมีน้ำฝนหรือน้ำท่วม จะทำให้ความชื้นสะสมในผนังและเพดาน → เกิดเชื้อรา และทำลายความแข็งแรงของบ้านไปทีละน้อย
4. เสี่ยงอันตรายด้านความปลอดภัย
- สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้
- กระจกที่ไม่ได้มาตรฐานความหนา แตกง่าย ก่อให้เกิดอันตรายกับผู้อยู่อาศัย
- ท่อประปาที่เปราะหรือไม่ได้มาตรฐาน ทำให้น้ำรั่วซึมและส่งผลต่อสุขอนามัย
5. ค่าใช้จ่ายซ่อมบานปลาย
แม้ตอนแรกเหมือนประหยัด แต่การใช้วัสดุคุณภาพต่ำจะทำให้เกิดการซ่อมบำรุงบ่อยครั้ง เช่น เปลี่ยนกระเบื้องหลังคาที่รั่ว ซ่อมผนังแตกร้าว หรือแก้ระบบไฟฟ้าใหม่ สุดท้ายแล้วกลับเสียเงินมากกว่าการเลือกวัสดุที่ได้มาตรฐานตั้งแต่ต้น

วิธีป้องกัน
-
เลือกวัสดุที่มี มาตรฐาน มอก. (มาตรฐานอุตสาหกรรม) หรือได้รับการรับรองสากล
-
ตรวจสอบให้ชัดเจนในสัญญาก่อสร้าง ว่าจะใช้วัสดุยี่ห้อ/รุ่นใด
-
ใช้บริการ ที่ปรึกษาก่อสร้าง หรือ วิศวกรตรวจสอบ เพื่อควบคุมคุณภาพวัสดุ
การเลือกวัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้ บ้านไม่ปลอดภัย เสี่ยงพังเร็ว และเกิดค่าใช้จ่ายซ่อมแซมมหาศาล ในระยะยาว
ดังนั้นการลงทุนกับวัสดุที่ได้มาตรฐานตั้งแต่แรก ไม่ใช่เรื่องสิ้นเปลืองแต่เป็นการซื้อ ความมั่นคง ความปลอดภัย และความสบายใจ ให้กับผู้อยู่อาศัย